As I Lay Dying
จากการเดินทาง…สิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาหาเรา เราก็มักจะได้ติดตัวกลับบ้านไป
เสมอ” … ดังเช่นประโยคอันคมคายจากวงดนตรีที่แสนจะปราดเปรื่องได้กล่าวไว้ และแน่นอน
หากคุณสัมผัสประโยคนั้นได้ด้วยความรู้สึกของคุณ คุณก็จะเข้าใจในอีกด้านหนึ่งที่ถูกแฝงไว้ แต่
ถ้าคุณกำลังพูดถึง 5 หนุ่มจาก Sandiego “As I Lay Dying” การเดินทางในความหมายของ
พวกเขาคือ การใช้ชีวิตที่บ้านในแต่ละวัน การไปตามเมืองต่างๆ ที่ไม่รู้จัก การพบปะกับคนที่ไม่คุ้น
เคย การยืนอยู่บนเวทีการแสดง เหล่านั้นมันคือการวนเวียนไปมาอย่างไม่รู้จบ ซึ่งนั่นก็ดูเหมือนจะ
ทำให้บางสิ่งชัดเจนขึ้นจุดเริ่มต้นนั้นเริ่มขึ้นในปี 2001 จากการพัฒนาวิสัยทัศน์ทางดนตรีโดยไม่
ใส่ใจสังคมแวดล้อมของ สุดยอดมือกีตาร์อย่าง Tim Lambesis เริ่มแรกนั้น As I Lay
Dying เป็นวงสามชิ้น ที่มี Tim และประกอบไปด้u3623 วยเพื่อนอีกสองคน(สมาชิกวงใน
ปัจจุบัน)คือ Evan White มือกีตาร์ และ Jordan Mancino มือกลอง หนึ่งเดือนให้หลังจาก
การรวมตัว พวกเขาก็มุ่งหน้าทำอัลบั้มแรกที่มีชื่อว่า “Beneath The Encasing of Ashes” ซึ่ง
ได้วางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน ภายใต้สังกัด Pluto Records จากนั้นไม่นานพวกเขาก็เริ่มออก
ทัวร์คอนเสิร์ต เพลงของพวกเขาเริ่มได้รับความสนใจจากเหล่านักฟังมากขึ้น ในตอนนั้นเองที่
อัลบั้ม Beneath The Encasing of Ashes ขึ้นแท่นอัลบั้มขายดีที่สุดของ Pluto Records
และการได้มาซึ่งความสำเร็จก็ยิ่งทำให้เป็นแรงผลักดันในการทำงานเพลงในอัลบั้มต่อๆ มาใน
เดือนสิงหาคม ปี 2002 Pluto Records ได้ผลิต Split Cd. ของวงออกมาจำหน่ายให้กับแฟน
เพลงใน Sandiego เป็นที่แรกเพื่อแสดงให้เห็นว่านั่นคือจุดเริ่มต้นของพวกเขาด้วย 5 เพลงใหม่
ที่รุนแรง หนักแน่นยิ่งขึ้น กลับกลายเป็นทำให้เพลงของเขาเข้าไปติดอยู่ในความนิยมของคนฟังได้
อย่างง่ายดาย รวมถึงการเป็นวงน่าจับตามองของค่ายเพลงต่างๆ อีกด้วยและแล้วในเดือนมีนาคม ปี
2003 As I Lay Dying ก็ได้ตกล่องปล่องชิ้นกับ Metal Blade เพื่อทำอัลบั้มใหม่และได้วาง
จำหน่ายในเดือนกรกฎาคม ปีเดียวกัน แม้ผลงานของ As I Lay Dying กำลังตกผลึกงอก
งามอย่างมหาศาลนั้น คนฟังในตลาด Mainstream บางส่วนก็ยังรับได้ยากกับแนวเพลงของวง
แต่นั่นก็ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับวงแม้แต่น้อย ด้วยหัวใจที่เต้นเป็น Gothenburg
Sound จังหวะแบบ Punch-Press การสำรอก และความซับซ้อนของเพลงในสไตล์
Swedish คล้ายกับวง At The Gate ทำให้พวกเขาก้าวมาสู่แนวหน้าของวงการ Metal ใน
อเมริกาได้อย่างเต็มภาคภูมิ รวมทั้งแฟนเพลงที่หนาแน่นมากขึ้นจากการออกอากาศมิวสิควิดีโอ
เพลง 94 hours และเพลง Forever ผ่านรายการ Fuse และ MTV2 Headbanger’s Ball
ยิ่งไปกว่านั้นคือการได้ขึ้นอันดับ 1 จากการดาวน์โหลด สปอต ผ่าน www.mp3.com นอกจาก
การประชาสัมพันธ์เพลงผ่านสื่อแล้ว การที่ As I Lay Dying ได้ร่วมคอนเสิร์ตใหญ่กับวงรุ่นใหญ่
อาทิ Killswitch Engage, In Flames, Shadows Fall, Lamb of God และ Hate
Breed ทำให้พวกเขาได้อ้าแขนรับแฟนเพลงใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย จากปากหนึ่งแนะนำสู่อีกปาก
หนึ่งก็เป็นวิธีที่ทำให้ As I Lay Dying ขยายความนิยมไปในวงที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2005 ด้วยชั่วโมงบินที่มากขึ้น เงินทุนที่มากขึ้น ความคิดสร้างสรรค์ที่ร้อน
แรง ถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในกระบวนการทำงานเพลงอัลบั้มใหม่ ซึ่งได้เข้าไปทำอัลบั้มกันที่
Bigfish Studio ใน Encinitas, California(ที่เดียวกับที่เคยทำอัลบั้ม Collapse) ตั้งแต่
เดือนมกราคม โดยการ produce ของ Lambesis และความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ในวงอย่าง
Phill Sgrosso และ Steve Russel ที่มาช่วยเป็น co producer และ sound engineer
ให้เบื้องหลัง ผลของการกลับมารวมตัวกันของเพื่อนเก่าทั้ง 5 คือ อัลบั้มใหม่ที่มีชื่อว่า Shadow
and Security Lambesis เล่าให้ฟังว่า “การได้ออกเดินสายในอัลบั้ม Frail Words
Collapse ช่วยให้ได้เรียนรู้ว่า อะไรเหมาะ อะไรไม่ใช่รวมทั้งยังมีอิทธิพลในการกำหนดทิศทาง
ของเพลงในอัลบั้มใหม่ แม้ว่าจะมีเพลงช้าในแบบ Ballad-Type(เพลง Repeating
Yesterday)
แต่นั่นก็เป็นประโยชน์ต่อการรวมจุดหมายในการทำเพลงไว้รวมกัน และมันจะยอดเยี่ยมได้เท่าที่
พลังขับเคลื่อนของเราจะมีอยู่”ว่าด้วยเรื่องของเพลง, ในอัลบั้มนี้เต็มไปด้วยความหนักหน่วงจาก
sound กลองแบบ Coffin-tight ของ Mancino และ sound กีตาร์ในแบบ Melodic ผสาน
ไปกับเนื้อร้องของ Lambesis ในขณะที่ Lambesis เองก็ยังลังเลที่จะใช้ Shadow เป็น
concept หลักของอัลบั้ม เขาอธิบายว่า มีความตั้งใจจะทำเพลงให้มีความพุ่งพล่านอย่าง
Confined มีเนื้อหาเกี่ยวกับจิตวิญญาณอย่าง Control Is Dead(เพลงนี้ได้ Zao’s Dan
Weyandt มาร่วมร้อง) และบทสรุปอัลบั้มนี้ก็คือ Illusion Lembesis พูดว่า “เนื้อเพลงของฉัน
มักจะมาจากสิ่งต่างๆ รอบตัวที่ผ่านเข้ามาในช่วง 2 ปี เนื้อเพลงต่างๆ ในอัลบั้มก็จะไปในทิศทาง
เดียวกัน คือการที่ฉันมักจะตั้งคำถามกับตัวเองและทำความเข้าใจว่า อะไรมีความหมาย และอะไรที่
ไม่มีความหมายใดๆเลย” หากสิ่งที่คัดกรองออกมา ดูจะเย่อหยิ่งเข้าถึงได้ยาก Lambesis ก็จะ
เก็บไปเพื่อทำให้อยู่ในบรรทัดฐานเดิม เขาพูดว่า “สิ่งต่างๆเหล่านั้นมันเกิดขึ้นจากความรัก และ
เรียนรู้เพื่อจะรักสิ่งเหล่านั้นได้อีก”กับการทัวร์ (อันน่าอึ้ง ทึ่ง เสียว) เพื่อโปรโมทอัลบั้ม Shadow
and Security พวกเขาได้โอกาสร่วมแสดงในคอนเสิร์ตใหญ่อย่าง Cornerstone Festival
รวมทั้งได้เป็น 1 ในวง Headline ของเวที 2 ในงาน Ozzfest.2005 ทำให้ As I Lay Dying
ได้นำเอาความรัก ความเจ็บปวด และความแผดกร้านไปสู่โสตของผู้ฟังทั่วโลก ในขณะที่
Lambesis ก็ได้เรียนรู้วิธีก้าวกระโดดเพื่อขึ้นไปอยู่แนวหน้าของวงการ Lambesis พูดว่า “ พวก
เรารู้ว่าตอนนี้ Metal core อยู่ในกระแสความนิยมเป็นอย่างมาก มันจึงเป็นการง่ายที่เราจะจับ
กระแสนี้โดยการทำเพลงในแบบ Metal core จริงๆ ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ผิดที่ได้เลือกเส้นทางสายนี้
มันก็แค่หมดเวลาของ Metal แบบดั้งเดิมไปแล้วเท่านั้นเอง” Lambesis เสริมอีกว่า “ในช่วง 2-
3 ปีที่ผ่านมาฉันได้เรียนรู้ว่าเราเป็นใคร…และรู้ว่าทำไมฉันถึงอยากจะ
กลับไปในเส้นทางที่สิ่งต่างๆ ควรจะเป็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น