วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556


จุดกำเนิดของ sweet mullet เริ่มมาจากเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว เต๋า(vocal)
อดีตนักร้องนำวง napkin และ เชษฐ์ screaming eve ตำแหน่ง samp กำลังหาสมาชิก
เพื่อจะทำวงใหม่ จนมีอยู่วันหนึ่งได้พูดคุยกับ พี่เอ๋ ebola ที่ cd warehouse เพื่อจะทำ
โปรเจ็คท์ร่วมกัน พี่เอ๋ ebola จึงแนะนำ วีน (guitar) ซึ่งเป็นรุ่นน้องให้รู้จัก
เต๋าจึงได้โทรศัพท์ไปคุยกับวีนและชักชวนมาร่วมโปรเจ็คท์นี้ด้วยกัน หลังจากที่ได้มือกีต้าร์แล้ว
ทางวงต้องการมือเบสกับมือกลอง เต๋าพอจะรู้จักคนที่เล่นเบสอยู่บ้างก็เลยไปชวน ตี่ (bass)
และตี่ก็ได้ตอบตกลงที่จะร่วมงาน ในขณะเดียวกันที่ วีน ก็รู้จักกับ อั๋น (guitar) เป็นเพื่อน
เรียนอยู่คณะเดียวกันที่ มหาวิทยาลัย มหิดล และได้ชักชวนเข้ามาร่วมวงเป็นกีต้าร์ไลน์
ประสานคู่กับวีนทางวงจึงเหลือแค่ตำแหน่งกลอง เต๋า เลยไปชวน ยิ่ว (drum) ที่ได้รู้จักกัน
ในงานประกวด drum contest ซึ่งยิ่วเข้าประกวดและได้อันดับ 2 ของรุ่น จูเนียร์มาครอง
และยิ่วก็ได้ตอบตกลงที่จะมาร่วมโปรเจ็คท์นี้ด้วยเช่นกัน
พอได้ร่วมกันทำเพลงไปได้สักระยะก็ต้องมีเหตุให้โปรเจ็คท์นี้ต้องหยุดไป
ตี่ ก็ขอกลับไปเล่นกับวงเก่า ส่วน เชษฐ์ ก็กลับไปทำงานเดี่ยวของเขาที่มีชื่อว่า
screaming eve ทางวงจึงเหลือสมาชิกเพียงแค่ 4 คน พอดีในขณะนั้น วีน มีรุ่นน้องที่
สวนกุหลาบ เป็นมือเบสและสนใจที่จะเข้ามาร่วมวง และตั้งแต่วันนั้น กล้วย (bass)
ก็เข้ามารับตำแหน่งมือเบสแทน ตี่
sweet mullet ในไลน์อัพใหม่ก็ได้เริ่มคัฟเวอร์วงที่ชอบและแต่งเพลงไปด้วย
แต่ก็เล่นไปได้ไม่นาน ยิ่ว มือกลองของวงก็ติดภารกิจต้องไปเล่นให้กับวง styrene jungle
ทางวงจึงต้องหามือกลองกันใหม่ ประจวบเหมาะกับ กล้วย มีเพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งที่สวนกุหลาบ
จึงแนะนำให้วงรู้จักและลองเล่นด้วยกัน ผลปรากฏออกมาว่าผ่าน หมู (drum) ก็ได้เข้ามา
เล่นกลองแทน ยิ่ว อย่างทันท่วงที
ในปี 2543 วง sweet mullet ก็ได้ร่วมกันทำเพลงออกมากันหนึ่งอัลบั้มนั่นก็คือ
sweet mullet : panaphobia ep. เป็นเพลงที่ทางวงได้เขียนกันเอง ผลิตกันเอง เป็นแนว
Emocore วางขายกันเองตามงานคอนเสิรต์ที่วงเดินทางไปเล่นตามที่ต่างๆ และเพลงของ
sweet mullet ก็ได้เปิดทางคลื่นวิทยุ 104.5 fat radio บ้างในช่วง bedroom studio
ทำให้ชื่อ sweet mullet เริ่มเป็นที่รู้จักของคนฟังเพลงใต้ดิน
เมื่อทางวงได้ทำแผ่นออกมาขาย พอดีพี่ โน่ (ดนัย ธงสินธุศักดิ์) ซึ่งเป็น
โปรดิวเซอร์อยู่ที่ค่าย genie records ที่รู้จักกันมาก่อนโทรศัพท์มาหา เต๋า และ
ได้พูดคุยชักชวนให้ลองส่งแผ่นมาที่ genie records หลังจากนั้นก็ได้รับการติดต่อจาก
genie records ให้เข้าไปคุยกันเรื่องรายละเอียดต่างๆของการทำเพลง
เดือน มกราคม 2544 วง sweet mullet ได้เซ็นสัญญากับค่าย genie records
และมีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกอีกครั้ง โดย กล้วย มือเบสของวงต้องกลับไปเล่นกับวงเก่า
ทำให้ sweet mullet ต้องหามือเบสกันอีกครั้ง เต๋า จึงลองโทรศัพท์ไปหา ตี่ ซึ่งเคยเป็น
มือเบสคนแรกของวง พอดีกับที่ ตี่ไม่ได้เล่นกับวงเก่าตั้งนานแล้ว เลยชวนให้กลับมารับหน้าที่
เล่นเบสอีกครั้งกับ sweet mullet ไลน์อัพปัจจุบันเลยมาลงตัวที่ เต๋า (vocal), อั๋น (guitar),
วีน (guitar), ตี่ (bass) และ หมู (drum)Adobe illustrator CS6 Patch (amtlib.dll)

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

  Bring Me The Horizon 


           Bring Me The Horizon เป็นวงดนตรีแนวเมทัลคอร์สัญชาติอังกฤษมีต้นกำเนิดมาจากเมืองเชฟฟิลด์ เขตยอร์คเชียร์ ซึ่งได้เริ่มก่อตั้งวงกันขึ้นมาในปี 2004 โดยปัจจุบันพวกเขาได้เซ็นสัญญากับทางค่าย Visible Noise Recordsในสหราชอาณาจักร และ  Epitaph Records ในสหรัฐอเมริกา รวมถึง Shock Records ในออสเตรเลีย

BMTH เริ่มฟอร์มวงกันในปี 2004 ในช่วงเริ่มแรกทางวงได้เซ็นสัญญากับทางค่าย Thirty Days of Night Records และเป็นวงแรกที่เซ็นสัญญากับค่ายนี้
BMTHได้ออกอัลบั้มแรกของพวกเขาที่มีชื่อว่า Count Your Blessings ในเดือนตุลาคม 2006 ซึ่งวางแผงในสหราชอาณาจักร และในเดือนสิงหาคม 2007 ทางวงก็ได้วางอัลบั้มชุดนี้ออกจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา
BMTH ได้ทำการบันทึกเสียงสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 2 ของพวกเขาในสวีเดนกับ Fredrik Nordström โดยอัลบั้มชุดที่ 2 นี้มีชื่อว่า Suicide Season ซึ่งได้ทำการออกจำหน่ายเมื่อเดือนกันยายน 2008

ทางวงได้เริ่มต้นออกทัวร์อย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริการวมถึงการร่วมออกทัวร์ในรายการ Warped Tour ในปี 2008 ด้วย ทางวงBMTHได้ร่วมออกทัวร์กับวงต่างๆชื่อดังมากมายเช่น Mindless Self Indulgence, In Case of Fire, Black Tide and Dir en grey  ในรายการทัวร์ของ Kerrang! and Relentless ในปี 2009 ซึ่งเป็นทัวร์ที่เปิดทำการแสดงในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังออกทัวร์ในอเมริกาเหนือในปี 2009 กับหลายๆวงเช่น Thursday, Cancer Bats, Four Year Strong and Pierce the Veil on the Taste of Chaos ด้วยเช่นกัน

ในเดือนพฤศจิกายน 2009 BMTH ได้จัดทำอัลบั้มพิเศษซึ่งเป็นอัลบั้ม remixed version จากเพลงในอัลบั้ม Suicide Season ซึ่งในอัลบั้ม remixed version นี้มีนักดนตรีชื่อดังมากมายมาร่วมแจมประกอบไปด้วย Ben Weinman จาก The Dillinger Escape Plan, Sonny Moore, L’Amour La Morgue (Ian Watkins นักร้องนำจากวง Lostprophets), Utah Saints และ Shawn Crahan จากวง Slipknot

ในเดือนมีนาคม 2009 มือกีต้าร์ Curtis Ward ได้ลาออกจากลง และต่อมาทางวงก็ได้ Jona Weinhofen มือกีต้าร์จากออสเตรเลียมาเล่นแทน

เพียงแค่สัปดาห์แรกของการออกจำหน่ายสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 3 ติดอันดับที่ 17 ของชาร์ต Billboard 200 ในสหรัฐอเมริกา และติดอันดับ 13 ในสหราชอาณาจักร และติดอันดับที่ 1 ในออสเตรเลีย อันดับที่ 1ใน UK Rock Chart รวมทั้งอันดับ 1 ใน UK Indie Chart ด้วย แม้ว่าอัลบั้มชุดที่ 3 ของBMTHจะขึ้นสู่อันดับ 1 ในออสเตรเลียและขายได้ถึง 3600 ชุด แต่มันก็เป็นยอดขายที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ARIA charts

Nottingham incident เหตุเกิดที่ Nottingham
ในขณะที่ทางวงBMTHได้ออกทัวร์ในสหราชอาณาจักรนั้น มีการกล่าวหากันเกิดขึ้นว่านักร้องนำ Oliver Sykes ได้ปัสสาวะลงบนหน้าของของแฟนเพลงผู้หญิงคนหนึ่งรวมถึงได้มีการทำร้ายแฟนเพลงคนนั้นด้วยในงาน Nottingham Rock City หลังจากที่แฟนเพลงผู้หญิงคนนั้นปฏิเสธที่จะมีความสัมพันธ์ทางเพศกับนักร้องนำวงBMTH ต่อมา Sykes ก็ถูกจับกุมในข้อหาปัสสาวะใส่แฟนเพลงแต่ไม่ถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย
มีการลือกันว่าทางวง BMTH ถูกแบนจากงาน Nottingham Rock City อย่างไรก็ตามทางต้นสังกัดของวงที่ชื่อ Visible Noise ได้ปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว และต่อมา BMTH ก็ได้ขึ้นทำการแสดงสดในงาน Nottingham Rock City เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2007
วันที่ 13 เมษายน Sykes ได้ไปขึ้นศาล Nottingham Magistrates Court ในคดีทำร้ายร่างกายที่เขาถูกกล่าวหาเพื่อที่เขาจะได้แก้ข้อกล่าวหาต่างๆว่าเขาไม่ได้กระทำผิด  การพิจารณาคดีของเขาได้ถูกเลื่อนออกไปจนกระทั่งช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
วันที่ 3 พฤษภาคม 2007 Sykes ได้ไปให้การในชั้นศาลเป็นครั้งที่ 2 และเขาเองก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นฝ่ายผิด คดีของเขาถูกเลื่อนออกไปอีกครั้งจนกระทั่งวันที่ 17 กันยายน Sykes ได้รับการยกฟ้องเนื่องจากว่าไม่มีพยานและหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดเขาได้

สมาชิกของวง Bring Me The Horizon ในปัจจุบัน

Matt Kean − bass guitar (since 2004)



Lee Malia − lead guitar (since 2004)



Matt Nicholls − drums (since 2004)



Oliver Sykes – lead vocals (since 2004)



Jona Weinhofen - rhythm guitar, keyboards, programming, vocals (since 2009)


สตูดิโออัลบั้มของทางวง Bring Me The Horizon

Count Your Blessings (2006)
Suicide Season (2008)
There Is a Hell, Believe Me I've Seen It. There Is a Heaven, Let's Keep It a Secret (2010)


อันนี้คือผลงานเพลงใหม่ของวงชื่อเพลงว่า Shadow moses 




วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Asking Alexandria


    Asking Alexandria เป็นวงเมทัลคอร์สัญชาติสหราชอาณาจักร มาจากเมือง York เขตยอร์คเชียร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2008 โดย Ben Bruce ซึ่งเป็นมือกีต้าร์ลีดของวงได้ติดต่อกับเพื่อนเก่าๆหลังจากที่เขาเดินทางกลับอังกฤษซึ่งก่อนหน้านั้นเขาพักอาศัยอยู่ที่ดูไบ สมาชิกของวงในปัจจุบันนั้นประกอบไปด้วย



Ben Bruce - Lead Guitar


Danny Worsnop- Lead Vocal


Cameron Liddell-Rhythm Guitar



Sam Bettley-Bass Guitar


James Cassells-Drums and Percussion





    Asking Alexandria มีจุดเริ่มต้นจากดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ซึ่งมือกีต้าร์ Ben Bruce เริ่มก่อตั้งวงและออกผลงานอัลบั้มเต็ม 1 ชุดกับสมาชิกในวงภายใต้ชื่อวงว่า Asking Alexandria  ต่อมาไม่นานนักก็มีการยุบวง โดย Bruce ได้ออกมาแถลงในวันต่อมาว่า วง Asking Alexandria นั้นจะเหลือแต่เพียงชื่อ ดังนั้นจะไม่มีการออกทัวร์แต่อย่างใด
ในปี 2008 Bruce ได้เดินทางกลับอังกฤษ โดยปล่อยให้สมาชิกคนอื่นๆในวงยังอยู่ในดูไบต่อไป อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น Bruce ยังไม่ได้วางแผนอะไรเกี่ยวกับอาชีพนักดนตรีของเขา แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตัดสินใจเริ่มต้นกับสมาชิกใหม่ภายใต้ชื่อวง Asking Alexandria เช่นเดิม โดย Bruce ได้เปิดเผยว่า ตัวเขาเองเป็นผู้หนึ่งที่คิดชื่อนี้ขึ้นมาและเขายังคงชื่นชอบชื่อและความหมายนี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้ชื่อวง Asking Alexandria ต่อไป และเขายังเน้นย้ำอีกว่า วง Asking Alexandria ในปัจจุบันนั้น ไม่ใช่วงเดียวกับที่แต่ง The Irony of Your Perfection ดังนั้นพวกเขาจึงแตกต่างกันถึงแม้ว่าจะมีจุึดเชื่อมโยงของวงที่คล้ายกันอยู่บ้างก็ตาม แต่คำแถลงดังกล่าวก็ยังคงสร้างความสงสัยให้กับบรรดาแฟนเพลงทั้งหลายอยู่ดี
   
     นับแต่ทางวงก่อตั้งในปี 2008 พวกเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงสมาชิกเพียงไม่กี่คนซึ่งได้เปลี่ยนแปลงจากสมาชิกวง 6 คนเป็น 5 คนโดย Ryan Binns ได้ลาออกจากวงไป รวมทั้งมือเบส Joe Lancaster ที่ลาออกไปเมื่อเดือนมกราคม 2009 โดยได้ Sam Bettley โดยทาง Lancaster ได้ขึ้นเล่นร่วมกับวงในการแสดงสดครั้งสุดท้ายของเขาที่งาน Fibers ในเมืองยอร์ค เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2009  หลังจากนั้นทางวงก็ได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อทำการโปรโมตผลงานของพวกเขารวมไปถึงการเตรียมตัวเพื่อบันทึกเสียงในงานสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของพวกเขาด้วย

    หลังจากที่ใช้เวลาในการออกทัวร์ตลอดปี 2008 จนถึงช่วงต้นปี 2009 แล้วนั้น พวกเขาก็เริ่มบันทึกเสียงผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของพวกเขา โดยเริ่มบันทึกตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2009 ที่ The Foundation Recording Studios ในเมือง Connersville รัฐอินเดียน่า สหรับอเมริกา โดยมีโปรดิวเซอร์ที่ชื่อ Joey Sturgis โดยพวกเขาได้สังกัดอยู่กับค่าย Sumerian Records และในวันที่ 15 กันยายน 2009 พวกเขาก็ได้ปล่อยผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของพวกเขาออกสู่หูของประชาชน โดยอัลบั้มชุดนี้มีชื่อว่า  Stand Up and Scream จากนั้นพวกเขาได้ทำการออกทัวร์ในอเมริการ่วมกับวงดังๆมากมายเช่น Alesana , Enter Shikari , The Bled and Evergreen Terrace เป็นต้น

     วันที่ 22 ธันวาคม 2009 ทางวงได้ประกาศว่าพวกเขากำลังเริ่มต้นที่จะทำสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 2 ในเดือนมกราคม 2010  โดยพวกเขาได้ประกาศว่าจะเริ่มเข้าสตูดิโอกันในเดือนกันยายนโดยยังมือโปรดิวเซอร์คนเดิมคือ Joey Sturgis ทางวงได้ยืนยันผ่านการสัมภาษณ์ทาง Shred News ว่า อัลบั้มชุดที่สองนี้จะวางแผงราวๆต้นปี 2011 และจะมีทั้งสิ้น 12 เพลง
ในเดือนมีนาคม Asking Alexandria ได้มุ่งหน้าไปกับการออกทัวร์รายการ Attack Attack! ซึ่งเป็นการทัวร์ในแถบอเมริกาเหนือก่อนที่จะจบทัวร์นี้ในเดือนเมษายน หลังจากนั้นพวกเขาจะออกทัวร์ยุโรปรวมถึงการทัวร์ยิ่งใหญ่ประจำปีในรายการ Groezrock Festival ด้วย
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2011 ที่ผ่านมา ทางวงได้วางแผลอัลบั้ม EP ที่มีชื่อว่า Stepped Up and Scratched ซึ่งเป็น Remixed Album
ล่าสุดทางวงได้ออกมาประกาศแล้วว่า สตูดิโออัลบั้มชุดที่สองของพวกเขาที่ชื่อ Reckless and Relentless จะวางจำหน่ายในวันที่ 5 เมษายน 2011